วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2558

comprehensible input


                       รายวิชาการแปลเป็นศาสตร์และศิลป์ที่ผูเรียนจะต้องมีการศึกษาค้นคว้า ทันเหตุการณ์ มีการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอเพื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญเพราะการแปลเป็นวิชาที่ไม่ง่าย ผู้เรียนจะต้องเรียนรู้ทั้งในชั้นเรียนและนอกห้องเรียน
            สิ่งที่ได้เรียนในชั้นเรียนคือผู้เรียนจะต้องมีการเรียนรู้จากระดับขั้นที่ง่ายไปสู่ขั้นยาก ผู้เรียนจะประสบความสำเร็จจะต้องผ่านกระบวนการ Input > process > product > outcome หมายถึง การเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจนสามารถผ่านหลักสูตรแต่ยงไม่เรียกว่าเป็นการประสบความสำเร็จ ผลตอบรับจากผลตอบรับจากผู้อื่นหรือความสามารถในการทำงานคือสิ่งที่บุคคลหนึ่งประสบความสำเร็จในชีวิตโดยในกระบวนการเรียนรู้ต้องประกอบด้วยผู้เรียนและผู้สอนโดยผู้สอนจะต้องรู้ข้อมูลของผู้เรียนเกี่ยวกับความรู้พื้นฐานต่างๆเพื่อนำไปประกอบตัดสินใจในการกำหนดหลักสูตร การจัดการเรียนการสอนจะต้องสอนเนื้อหาไม่ยากเกินกว่าที่ผู้เรียนจะรับได้ตามสมการ I+1= Comprehensible Input คือผู้สอนจะต้องสอนให้ยากกว่าความรู้พื้นฐานหนึ่งเท่าและผู้เรียนจะต้องมีการตรวจสอบตนเอง หมั่นฝึกฝน เพื่อความคุ้นเคย จะทำให้ผู้เรียนสามารถตอสนองโดยธรรมชาติ ที่ไม่ใช่เพียงการตอบสนองโดยการจดจำ ผู้เรียนจะต้องมีความสามารถใน4ทักษะ คือ Receptive skill ทักษะการฟังและการอ่าน Productive skill ทักษะการเขียนและการพูด
            ในการเรียนการแปล ผู้แปลจะต้องไม่ใช้คำฟุ่มเฟือย จะต้องใช้คำที่สละสลวย แต่ต้องไว้ซึ่งต้นฉบับ เนื่องจากภาษามีการพลิกแพลงสามารถแปลออกมาได้หลายความหมาย ตามความเข้าใจ ความสามารถและประสบการณ์ขงผู้แปล ในการแปลแต่ละครั้งผู้แปลจะต้องมีการแปลกลับภาษาเดิมได้ ดังนั้นการเรียนการแปลภาษาผู้เรียนจะต้องมีการเตรียมตัวของตนเองทบทวนความรู้เก่า หมั่นศึกษาหาความรู้ หมั่นศึกษาหาความรู้รอบตัว ทันเหตุการณ์ฝึกตนเองให้มีทั้ง4ทักษะ
            สิ่งที่ได้เรียนรู้นอกห้องเรียน ได้ศึกษาการแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย 1 ปัญหาด้านไวยากรณ์ เช่น He was invited to give a speech หมายถึง เขาถูกเชิญให้ไปพูด แต่ในภาษาไทย คำว่า ถูก ความหมายจะส่อไปในทางไม่ดีจึงควรแปลว่า เขาได้รับเชิญให้ไปพูด 2 คำเชื่อมความคิดระหว่างประโยค They did not love each other, so they separated จะแปลว่า เขาไม่รักกัน เขาจึงแยกกัน so เป็นการเชื่อมโยงเหตุผล จึงแปลว่าเขาไม่รักกันแล้ว ดังนั้นเขาจึงแยกกัน 3คำสรรพนามชี้เฉพาะ You are the one I love จะแปลว่า เธอเป็นคนหนึ่งที่ฉันรัก แต่คำว่าone ไม่เฉพาะเจาะจง ควรแปลว่า เธอคือคนที่ฉันรัก บางครั้งประธานในประโยคไม่จำเป็นในการแปลก็ได้เช่น it was cold this year แปลว่า ปีนี้อากาศหนาว นอกจากนี้ ยังมีปัญหาด้านคำศัพท์และสำนวน เช่นคำศัพท์มีความหมายหลากหลาย ตัวอย่าง I want to draw some money. และNobody can draw conclusion.ในประโยคที่หนึ่ง หมายถึง ถอนเงินและประโยคที่สองหมายถึงลงความคิดเห็น มีคำศัพท์ที่มักเข้าใจความหมายผิด เช่นคำว่า gorilla (s) แปลว่าผู้ก่อการร้าย และgorilla (s) แปลว่าลิงกอริลล่า คำกริยาคู่เช่น The firemen successfully put out the fire. Put out หมายถึงดับไฟ จึงแปลว่า พนักงานสามารถดับไฟสำเร็จ คำสุภาษิตคำพังเพย ผู้แปลจะต้องเข้าใจวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เช่น Yesterday he worked hard, so he slept like a log. หมายถึงเมื่อวานเขาทำงานหนัง เขาหลับเป็นตาย บางครั้งเราอาจแปลว่าเขาหลับเหมือนท่อนซุง ซึ่งปัญหาต่างๆเหล่านี้ผู้เรียนจะต้องมีการฝึกฝน และค้นคว้าหาความรู้อย่างสม่ำเสมอ
            จากการเรียนรู้ทำให้ทราบว่าการเรียนวิชาการแปลเป็นวิชาที่ผู้เรียนจำเป็นต้องฝึกฝนหาความรู้อย่างสม่ำเสมอ ความรู้รอบตัวอยู่ตลอดเวลา 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น